Apr
28
2011

นักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ฯ คว้ารางวัลชนะเลิศทูตความดีแห่งประเทศไทย

1,407 views

นายปฏิภาณ บุณฑริก นักศึกษาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่โดดเด่นทั้งการออกความคิด ความเป็นผู้นำ ทักษะการสื่อสารและมนุษยสัมพันธ์ คว้ารางวัลชนะเลิศทูตความดีแห่งประเทศไทย (ประเภทบุคคล) จากโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย 2554 (D Ambassador 2011) รับถ้วยรางวัลประกาศเกียรติคุณ จากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมทุนการศึกษาต่อต่างประเทศจากมหาวิทยาลัยวูลลองกอง (University of Wollongong) ประเทศออสเตรเลีย

นอกจากได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทบุคคลแล้ว ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม (ทีม D1 คิดดี ไม่คิดโกง มีภารกิจในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น โดยได้จัดทำหนังสั้นเรื่อง “ครองโลก” เพื่อปลูกจิตสำนึกที่ดีแก่เด็กๆ และจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการโกงในจังหวัดและองค์กรต่างๆ) รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา 400,000 บาท และโอกาสในการดูงานด้าน CSR ในต่างประเทศจาก AIESEC อีกด้วย

โดยการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ โครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย หรือ ดี แอมบาสเดอร์ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2554 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม อาคาร E คริสตัล ถนนรามอินทรา ท่ามกลางเยาวชนผู้เชื่อมั่นในการทำความดีและผู้สนับสนุนที่มาจากทั่วประเทศเพื่อเป็นสักขีพยานในการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรณ์ จาติกวนิช ให้เกียรติมาเป็นประธาน

โครงการ ทูตความดีแห่งประเทศไทย 2554 (D Ambassador 2011) เป็นการเปิดเวทีความดีครั้งแรกของประเทศ โดยโครงการ “คนไทยหัวใจสีขาว” ร่วมด้วยองค์กรภาคีทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม อาทิ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม สถาบันวิมุตตยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) ตระหนักถึงรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ คือ การปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องและดีงามแก่เยาวชน ทั้งในด้านความรู้ควบคู่กับคุณธรรม ไม่ให้เยาวชนถูกครอบงำโดยกระแสวัตถุนิยม และขาดมิติของการกล้าแสดงออกในวิถีทางที่ถูกต้อง ซึ่งถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์พร้อมเปิดให้ประชาชนได้โหวตเพื่อเฟ้นหาเยาวชนต้นแบบ ที่มีจิตอาสา มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และกล้าทำความดี โดยยึดหลักแนวคิดที่ว่า “ความดี ยิ่งพูดยิ่งทำ ยิ่งมีพลัง” ดังพระบรมราโชวาทพระราชทานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2553 ความตอนหนึ่งว่า

“การทำความดีนั้น แม้ไม่มีใครรู้เห็น แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ผลดีที่เกิดขึ้น ยิ่งเพิ่มพูนและแผ่ขยายกว้างออกไป เป็นประโยชน์ เป็นความเจริญมั่นคงที่แท้แก่ตน แก่ส่วนรวม ตลอดถึงชาติบ้านเมือง…”

เพิ่มเติม: http://www.do-d-club.com/web/home

Comments

comments

Faculty of Journalism and Mass Communication, Thammasat University | email: jc.thammasat@gmail.com
StartCounter@15052010

  • Twitter
  • Facebook
  • YouTube